เวลาทำการ

เปิดทุกวัน

ฉุกเฉินติดต่อได้ 24 ชม.

Book Now

@travelspree

Travel License : 11/06647

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

จิ่วจ้ายโกว อุทยานธารสวรรค์ สวยชวนฝันทุกฤดู

จิ่วจ้ายโกว อุทยานธารสวรรค์ สวยชวนฝันทุกฤดู

27

Sep

จีน

จิ่วจ้ายโกว อุทยานธารสวรรค์ สวยชวนฝันทุกฤดู

ถ้าพูดถึงอุทยานแสนสวย ธรรมชาติงดงามดั่งดินแดนสวรรค์อันโด่งดัง เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของภูเขา ลำธาร น้ำตก  และทะเลสาบที่เป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว ก็คงจะหนีไม่พัน "อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว" แหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน แอ๊ดบอกเลยว่าอุทยานแห่งนี้ถ้าใครเคยไปจะรู้ว่าแอ๊ดไม่ได้เวอร์ เพราะความงามของเค้าสวยดั่งสวรรค์บนดินจริงๆ ส่วนท่านไหนยังไม่เคยไปทัวร์จิ่วจ้ายโกว แอ๊ดแนะนำเลยว่าต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง วันนี้ ทราเวลสปรี จะมาบอกไฮไลท์บรรยากาศคร่าวๆที่ท่านจะได้เห็นจากอุทยานจิ่วจ้ายโกวนี้ ในแต่ละฤดู ซึ่งต้องบอกเลย ไปฤดูไหนก็ปัง ไปฤดูไหนก็สวยงดงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีจริงๆนะ

ทำความรู้จักกับจิ่วจ้ายโกว
"จิ่วจ้ายโกว" ในภาษาจีนหมายถึง ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในอดีตมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน อยู่ตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่และป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO เมื่อปี 1992 ภายในพื้นที่รอบจิ่วจ้ายโกว อุดมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบหลากสี น้ำตก ภูเขา และป่าไม้ ช่วงเวลาที่ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของที่นี่ก็คือ ฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่ละลานตาไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั่วหุบเขาผสมกับหิมะที่เริ่มโปรยปรายในบางปี

ฤดูกาลในจิ่วจ้ายโกว

จิ่วจ้ายโกวในช่วงฤดูร้อน Summer in Jiuzhaigou
อุณหภูมิประมาณ : 15°C – 29°C
ฤดูร้อนของจิ่วจ้ายโกว จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ช่วงหน้าร้อนของจิ่วจ้ายโกว อากาศจะสบาย กำลังดี ท้องฟ้าเปิด มีแสงแดดส่องแสงระยิบระยับ  ทิวทัศน์ในจิ่วจ้ายโกวทั่วทั้งบริเวณก็เป็นสีเขียวชอุ่มสวยงาม ถูกโอบล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมากที่สุด เป็นเวลาที่ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ผลิบานอย่างเต็มที่ ช่วงนี้จิ่วจ้ายโกวจะเป็นอะไรที่สดใสสุดๆไปเลย กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูร้อน คือ การล่องเรือ ตกปลา

จิ่วจ้ายโกวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง Autumn in Jiuzhaigou
อุณหภูมิประมาณ : 5°C – 20°C
ฤดูกาลของจิ่วจ้ายโกว ช่วงใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน - ตุลาคม ไฮไลท์ของช่วงเวลานี้ก็คือเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โดยปกติในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่น่าจะดีที่สุดและครบเครื่องที่สุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศโรแมนติค การเห็นสีสันของใบไม้หลากสีผสมกับมีหิมะเริ่มโปรยปราย ทิวทัศน์รอบๆ หุบเขาจิ่วจ้ายโกวรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีส้ม แดง เหลือง ปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา เห็นเป็นภาพใบไม้หลากสีนับหมื่นๆ ต้นสะท้อนน้ำในทะเลสาบสีมรกตที่ใสราวกับกระจก ดูแล้วสวยสมเป็นดินแดนสวรรค์บนดิน ช่วงเวลานี้มีกิจกรรมที่นิยมนอกจากการดื่มดำชมธรรมชาติอันงดงามแล้ว ก็คือการล่องเรือ ตกปลา

จิ่วจ้ายโกวในช่วงฤดูหนาว Winter in Jiuzhaigou
อุณหภูมิประมาณ : -5°C – 10°C
ฤดูกาลของจิ่วจ้ายโกว หลังจากใบไม้ไม้ร่วง ราวๆประมาณเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ท่านจะเห็นสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นจัดจนถึงติดลบ บรรยากาศจิ่วจ้ายโกวจะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน หิมะจกปกคลุมภูเขาและต้นไม้รอบๆ ทะเลสาบและน้ำตกจะกลายเป็นน้ำแข็ง ทุกอย่างจะดูราวเหมือนกับภาพวาดเพราะเราจะได้เห็นทะเลสาบสีฟ้าอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีขาวซึ่งมีความสวยงามสุดๆ ใครชอบแนวถ่ายรูปกับหิมะฟูๆต้องมาจิ่วจ่ายโกวในช่วงฤดูหนาวนี้เท่านั้น

เทศกาลและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูหนาว 
เทศกาลโคมไฟจื่อกง หรือจี้กง (Zigong Lantern Show)
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ชาวเมืองในมณฑลเสฉวนจะนำโคมไฟจื่อกงที่ทำจากไม้ไผ่จักสานอย่างประณีต ตกแต่งด้วยผ้าไหมและกระดาษสีสันงดงาม นำโคมไฟหลายๆ อันมามัดเป็นรูปทรงต่างๆ ตกแต่งเพิ่มด้วยแสงและเสียง ทำให้ทั่วทั้งเมืองสว่างไสว พร้อมกับจัดงานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูหนาว คือ การเล่นไอซ์สเก็ต

จิ่วจ้ายโกวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ Spring in Jiuzhaigou
อุณหภูมิประมาณ : 4°C – 20°C
จิ่วจ้ายโกวช่วงฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน หลังจากหิมะในฤดูหนาวหมดไป ใบไม้ ดอกไม้ เหมือนกับว่าเป็นการเริ่มต้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อุทยานเริ่มผลิบาน ต้นไม้ใบไม้ต่างๆ ก็เริ่มผลิใบสีเขียวใหม่ สะท้อนบนผืนน้ำทะเลสาบสีมรกตสดใส และในบางปีถ้ามาช่วงต้นเดือนมีนาคมซึ่งเป็นรอบต่อจากฤดูหนาวมาเป็นเข้าฤดูใบไม้ผลิ เราอาจจะได้เห็นหิมะที่ยังละลายไม่หมดปกคลุมอยู่บางๆบนยอดเขา ทำให้เราได้บรรยากาศที่ดูน่าจดจำไปอีกแบบ

เทศกาลและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูใบไม้ผลิ
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (Spring Festival) ตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามจันทรคติ จะมีงานฉลองทั่วประเทศ เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์เซี่ย เดิมเป็นพิธีบวงสรวงที่จัดขึ้นหลังจากวันที่ดวงอาทิตย์โคจรห่างโลกมากที่สุดในฤดูหนาว ชาวจีนจะทำความสะอาดและตกแต่งบ้านให้สวยงาม นิยมใช้กระดาษตัดเป็นรูปตัวละครจากอุปรากร ดอกไม้ นก แมลง และปลา ตกแต่งตามหน้าต่าง ประตูติดป้ายคำมงคลสีแดง ซื้อเสื้อผ้าใหม่ สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะกลับมาร่วมรับประทานอาหารส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกัน อาหารประจำเทศกาลคือ เค้กปีใหม่ ที่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวเจียวจื่อ (คล้ายเกี้ยว) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่ชาวจีนทางภาคเหนือนิยมมาก กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูใบไม้ผลิ คือ การล่องเรือ ตกปลา

จุดไฮไลท์ที่เที่ยว ในจิ่วจ้ายโกว

1. น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoals Waterfall)
น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว เรียกอีกชื่อว่า น้ำตกนู่รือหลาง ส่องประกายราวกับเส้นไข่มุก เนื่องด้วยเป็นผลมาจากน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารน้อยใหญ่ และมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมา รูปทรงคล้ายกับพัดจีน มีความสูง 40 เมตร และกว้าง 310 เมตร ถ้ามาเที่ยวในช่วงเวลาตอนเช้าจะได้เห็นสายรุ้งจากแสงแดดที่สะท้อนกับละอองน้ำอีกด้วย

2. หมู่บ้านซูเจิง (Shuzheng Village)
หมู่บ้านซูเจิงเป็นหนึ่งใน 9 หมู่บ้านแห่งจิ่วจ้ายโกว ที่เก่าแก่ของชาวทิเบต ล้อมรอบด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกซูเจิงที่เป็นน้ำตกที่มีความกว้าง 62 เมตร และสูง 25 เมตร มีลักษณะเหมือนดอกบัว และมีสายน้ำไหลลงมาแยกออกเป็นเส้นเล็กๆ กว่าพันสาย ส่วนยอดของน้ำตกเป็นจุดรวมของสายน้ำ และยังมีทะเลสาบซูเจิง ที่ประกอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่กว่า 19 แห่ง อยู่ตามโขดหินที่สลับกันเหมือนขั้นบันได ไล่ระดับต่างกันกว่า 100 เมตร มองจากมุมสูงจะสวยสุดๆ

3. ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake)
ด้วยสีสันจากธรรมชาติ ทะเลสาบที่จัดว่าสวยที่สุดในจิ่วจ้ายโกว เป็นไฮไลต์ของจิ่วจ้ายโกวเลยก็ว่าได้ คือทะเลสาบห้าสี ด้วยผืนน้ำในทะเลสาบที่ไล่เฉดสีฟ้า-เขียว และเปล่งประกายเหมือนสีรุ้ง สีของน้ำทะเลสาบที่เห็นนี้เกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนตและพืชน้ำชนิดต่างๆ อีกทั้งน้ำยังใสจนเห็นพื้นทะเลสาบเลยทีเดียว ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ

4. ทะเลสาบยาว (Long Lake)
ทะเลสาบยาวเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร พื้นที่กว่า 581 ไร่ รูปร่างของทะเลสาบเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าสวยงาม มาจากหิมะบนภูเขาที่ละลายลงมา ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นสน บรรยากาศดีงามมากๆ

5. ทะเลสาบแรด (Rhino Lake)
ทะเลสาบแรดเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอุทยานจิ่วจ้ายโกว แถมยังมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บรรยากาศรอบๆ จะเป็นสีเขียว พร้อมด้วยดอกไม้ใบหญ้า ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยสีส้มแดงของใบไม้เปลี่ยนสี ผืนน้ำในทะเลสาบใสสะท้อนวิวธรรมชาติโดยรอบ จัดว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีวิวเงาสะท้อนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย

6. ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake)
ทะเลสาบกระจกในจิ่วจ้ายโกวแห่งนี้ เป็นทะเลสาบที่ผืนน้ำใสและสะท้อนวิวธรรมชาติโดยรอบทั้งภูเขาและท้องฟ้าออกมาได้สวยงามราวกับกระจก ยิ่งในวันที่ฟ้าเปิดและมีแสงแดดอ่อนๆ ก็จะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ

7. ทะเลสาบนกยูง (Peacock Lake)
ทะเลสาบนกยูงเป็นทะเลสาบในจิ่วจ้ายโกว ที่มีรูปร่างคล้ายกับนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อ ความพิเศษก็คือ สีของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ที่เป็นสีฟ้าและใสราวกับคริสตัล ไล่เฉดสีฟ้าเข้มและอ่อนโดยขึ้นอยู่กับระดับความลึกของน้ำ

จองโปรแกรมทัวร์จีน จิ่วจ้ายโกว กับ ทราเวล สปรี

เห็นมั้ยล่ะ ทราเวลสปรี บอกแล้ว ว่าอุทยานจิ่วจ้ายโกว เนี้ย สวยงามราวกับแดนสวรรค์จริงๆ เราอยากชวนให้ทุกท่านได้มาเที่ยวจิ่วจ้ายโกว กันซักครั้ง เรามีโปรแกรมทัวร์จิ่วจ้ายโกวหลากหลายมากมายให้คุณให้เลือก จองกับทราเวล สปรี นะ ^ ^  

จำนวนผู้เข้าชม 157 ครั้ง