เวลาทำการ

เปิดทุกวัน

ฉุกเฉินติดต่อได้ 24 ชม.

Book Now

@travelspree

Travel License : 11/06647

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

คิดว่าต้องมา คามิโคจิ ที่เที่ยวสุดอลังแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

คิดว่าต้องมา คามิโคจิ ที่เที่ยวสุดอลังแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

27

Sep

ญี่ปุ่น

คิดว่าต้องมา คามิโคจิ ที่เที่ยวสุดอลังแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ  มีแม่น้ำใสเหมือนกระจกสะท้อนกับท้องฟ้า ล้อมรอบด้วยภูเขาและผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และสวยที่สุดอีกหนึ่งแห่งในญี่ปุ่น แอ๊ดเชื่อเลยว่าหลายๆคนจะต้องนึกถึง คามิโคจิ Kamikochi เป็นอันดับต้นๆแน่นอน นอกจากคามิโคจิ จะโด่งดังในเรื่องของวิวสวยๆของเทือกเขาแอลป์ถูกใจนักเดินป่าให้ไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติแล้วซึ่งถ้านักท่องเที่ยวที่ไม่ชำนาญในการเดินป่าจริงๆก็สามารถท่องเที่ยวได้สบาย เพราะเส้นทางเดินป่าแต่ละจุดง่าย ไม่ซับซ้อน คามิโคจิ ยังเป็น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่งดงามสุดๆ ไปเลย วันนี้ ทราเวล สปรี จะพาทุกท่านไปเที่ยวคามิโคจิกัน เก็บเป๋าตามมาเลย ^ ^

ทำความรู้จักกับ คามิโคจิ Kamikochi

คามิโคจิ มีความหมายว่า "สถานที่ที่เทพเจ้าลงมาประทับ" เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามบริสุทธิ์ มีความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นดังอุทยานของเหล่าเทพเจ้า คามิโคจิ เป็นหุบเขาแสนสวย ดั่งสวรรค์กลางป่า เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติจูบุซังกะคุ ในจังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร  และมักถูกเรียกว่า ประตูสู่เทือกเขาเจแปนแอลป์ เพราะจากคามิโคจิสามารถเดินเทรกไปยังยอดเขาลูกไหนก็ได้ในเจแปนแอลป์ตอนเหนือ คามิโคจิ เป็นแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาขนาดใหญ่และแม่น้ำสายสำคัญอย่าง แม่น้ำอาซุสะ แม่น้ำสีฟ้าใสแจ๋วที่ทอดยาวตลอดหุบเขา เป็นจุดชมวิวเจแปนแอลป์ ที่สวยงามที่สุด และขนานนามว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ใครๆ ก็อยากไปชมสถานที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์สวยงาม และเนื่องจากคามิโคจิตั้งอยู่ระหว่าง เมืองมัตสึโมโตะ และ ทาคายามะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมไปเที่ยวแบบ One Day Trip แต่ใครที่อยากจะพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในอุทยาน ที่นี่ก็มีจุดกางเต็นท์และที่พักให้บริการเช่นกัน

ฤดูกาลท่องเที่ยวของ คามิโคจิ Kamikochi

คามิโคจิ ในทุกปีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมแค่เพียงปีละ 7 เดือนเท่านั้น โดยปกติจะเปิดประมาณช่วงกลางเมษายนถึงพฤศจิกายน (ประมาณวันที่ 17 เมษายน – 15 พฤศจิกายน ของทุกปี ถ้าไม่มีประกาศเปลี่ยนแปลง) เพราะฉะนั้นใครที่มีแพลนไปเที่ยวคามิโคจิในช่วงฤดูหนาวอาจจะได้ไปเสียเที่ยว เพราะจะเป็นช่วงที่ทางอุทยาน จะปิดทำการเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ อีกทั้งสภาพอากาศที่หนาวจัดยังไม่เหมาะแก่การไปเที่ยวในช่วงนั้นอีกด้วย แต่ถึงคามิโคจิจะเปิดแค่ช่วงเวลานึง แต่ฤดูเที่ยวของที่นี่นั้นต้องบอกว่ามีเสน่ห์และสวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม)  ช่วงที่อุทยานเพิ่งเปิดทำการ ในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีต้นไม้และพืชพรรณเขียวชะอุ่ม อีกทั้งในบางพื้นที่ยังคงมีหิมะปกคลุม ทําให้มีอากาศเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 1 – 15 องศา

ฤดูร้อน (มิถุนายน – กันยายน)  เป็นช่วงที่อากาศยังคงเย็นสบายมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 13 – 23 องศา เป็นฤดูยอดนิยมที่หลายคนมักจะมาทํากิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า ปืนเขา และเที่ยวชมนํ้าตกธรรมชาติ 

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม – พฤศจิกายน)  ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงพีคของนักท่องเที่ยวเป็นช่วงที่สวยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยใบไม้ต่าง ๆ เปลี่ยนเป็น สีเหลือง แดง และส้ม ทําให้เกิดทิวทัศน์สุดตระการตา โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 4 – 14 องศาเซลเซียส ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหล่าต้นไม้จะมีสีสันสวยงามมากและเมื่อตัดกับภูเขาหิมะและสายน้ำสีฟ้าของแม่น้ำอาซุสะ ยิ่งสวยงามอลังการมากกว่าเดิม

ช่วงที่อุทยานปิดทำการ  คือ ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – เมษายน) เป็นช่วงที่ร้านค้า โรงแรม ส่วนใหญ่จะเริ่มปิดให้บริการ แต่หากต้องการมาเที่ยวชมจำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นไปด้วย เพื่อดำเนินการยื่นแบบฟอร์มก่อนเข้าอุทยาน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -10 – 1 องศาเซลเซียส

7 ที่เที่ยวไฮไลท์ในคามิโคจิ Kamikochi

เราทำความรู้จักกับคามิโคจิกันมาเบื้องต้นแล้ว เดี๋ยวแอ๊ดจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชม 7 จุดไฮไลท์ในคามิโคจิ ที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาพักผ่อน ถ่ายรูปสวยๆ และดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ รับรองว่าปังแน่นอน


1. สะพานกัปปะ

สะพานกัปปะ ถือเป็นสัญลักษณ์และจุดไฮไลท์ประจำคามิโคจิ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นพิเศษเพราะขึ้นชื่อว่าถ่ายรูปสวย สะพานแห่งนี้ เป็นสะพานไม้แขวนใจกลางคามิโคจิ  ทอดข้ามผ่านแม่น้ำอาซุสะพร้อมกับทิวทัศน์ของภูเขาทางด้านหลัง ถือเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ทุกต้นจะพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ไล่สีอย่างสวยงามอลังการที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมี ภูเขายาเกะดาเกะ  พิกัดสุดท้าทายสำหรับสายลุยให้ไปปีนเขาชมธรรมชาติให้เต็มที่


ในคามิโคจิมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลักๆ อยู่ 2 เส้น เส้นทางแรกคือ เส้นทางระหว่าง บึงไทโช กับ สะพานกัปปะ ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร สำหรับใครที่มีเวลาอยากดื่มด่ำกับธรรมชาตินานๆ ก็แนะนำให้ไปยังเส้นทาง บึงไทโช ไปจนถึง สะพานเมียวจิน ในระยะทาง 7 กิโลเมตร เราจะได้ชมธรรมชาติอันร่มรื่นของป่าเขา รวมถึงทักทายกับน้องลิงก้นแดงที่จะออกมาให้เราเห็นหน้าค่าตาเป็นระยะ เพลิดเพลินไปอีกแบบ

2. บึงไทโช

บึงไทโช นับเป็นหนึ่งจุดที่งดงามในคามิโคจิ เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคามิโคจิ บึงไทโชเป็นบึงที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเค ทำให้แม่น้ำอาซุสะถูกปิดกั้น และเกิดเป็นบึงไทโชขึ้น บึงแห่งนี้อยู่ใกล้กับเขื่อนกั้นแม่น้ำอาซูสะ ซึ่งบรรยากาศของบึงน้ำที่ใสจนสะท้อนเห็นภูเขาและป่าโดยรอบ ทำให้ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก 

3. แม่น้ำอาซุสะ

แม่น้ำอาซุสะ เป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากน้ำพุที่อยู่ลึกเข้าไปในเขาแอลป์ตอนเหนือ และมีสีฟ้าใสราวกับกระจก ผู้คนต่างพูดว่าคามิโคจินั้นจะไม่เป็นคามิโคจิเลย ถ้าไม่มีแม่น้ำอะซุสะ ซึ่งชื่ออาซุสะนั้นได้มาจากต้นไม้ที่ได้รับการยกย่องตั้งแต่สมัยโบราณในด้านความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น จึงมีพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นนำไปตั้งชื่อให้ลูกเลยทีเดียว แม่น้ำแสนสวยสายนี้มีต้นน้ำมาจากภูเขายาริ ไหลผ่ากลางหุบเขาคามิโคจิ และเปลี่ยนชื่อไปมาตามแต่แม่น้ำที่ไหลไปรวม ก่อนจะกลายเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นและไหลไปลงทะเลญี่ปุ่นที่จังหวัดนีกาตะ

4. บึงทะชิโระ

บึงทะชิโระ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดในคามิโคจิ ตั้งอยู่ริมเส้นทางการเดินป่าที่เชื่อมระหว่างสะพานคัปปะและสระน้ำไทโช นอกจากจะมีภูเขาล้อมรอบแล้วยังมีดอกซาเลีย และดอกซากิสุเกะ ที่สามรถชมได้ในฤดูร้อน และจะเปลี่ยนเป็นสีขาวในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งในช่วงนี้หากไปถูกเวลาและโชคเข้าข้างแล้ว ท่านจะได้เห็นภาพอันน่าตื่นตาอัศจรรย์ใจ เมื่อดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆลอยโผล่เหลี่ยมเขาขึ้นมา สาดแสงอรุณลงมาบนกิ่งก้านต้นไม้ที่เต็มไปด้วยแม่คะนิ้ง ระยิบระยิบพร่างพราวเหมือนมีใครเอาเพชรมาโปรยลงบนกิ่งก้านต้นไม้

5 บึงดาเกะซาวะ

บึงดาเกะซาวะ เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งที่ที่มีความสวยงาม และสงบไม่แพ้กับสะพานคัปปะอยู่ไม่ไกลจากสะพานคัปปะ

6 .บึงเมียวจิน

บึงเมียวจิน เป็นบึงน้ำที่ใสราวกับคริสตัล ตั้งอยู่ในเขตศาลเจ้าโฮทากะชั้นใน ทำให้มีบรรยากาศเงียบสงบศักดิ์สิทธิ์ต่างไปจากบริเวณสะพานคัปปะ  เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ในทุกปีตรงกับวันที่ 8 ตุลาคม ท่านจะได้เห็น เทศกาลเรือ หรือการทำพิธีกรรมแบบชินโต เรียกว่า โอะฟุเนะมัตสึริ มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าและขอให้นักเดินทางเดินทางในภูเขาย่างปลอดภัย นักบวชจะแต่งตัวในชุดพิธีการแบบสมับยุคเฮอัน และขึ้นไปยืนบนเรือซึ่งประดับไปด้วยหัวนกฟีนิกซ์และมังกรที่หัวเรือ

7. สถานที่ตั้งแคมป์โคะนาชิไดระ

สถานที่ตั้งแคมป์โคะนาชิไดระ เป็นสถานที่ตั้งแคมป์ที่อยู่ห่างจากสะพานกัปปะไม่ไกล ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยต้นคาระมัตสึ และยังมีวิวพรีเมียมของเทือกเขาโฮทากะในบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ ห่างไกลจากผู้คนจอแจ ที่นี่จะมีร้านค้าเล็ก ๆ พร้อมกับโรงอาบน้ำสาธารณะให้ใช้ และหากไม่ต้องการตั้งแคมป์ก็มีบ้านพักที่มีของอำนวยความสะดวกครบครันแม้จะอยู่กลางป่าให้บริการอีกด้วย

จองทัวร์คามิโคจิ กับ ทราเวล สปรี นะ ^ ^

คามิโคจิ เป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมากจริงๆ ทั้งอากาศ วิวทิวทัศน์ และเปิดแค่ช่วงเวลานึงเท่านั้น ทราเวลสปรี ไม่อยากให้ทุกท่านได้พลาดมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ด้วยตาตัวเอง หากพลาดไปแล้วต้องรออีกประมาณครึ่งปีถึงจะได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสความงามของที่นี่แห่งนี้อีกครั้ง ทราเวล สปรี มีโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น เส้นทางคามิโคจิ มากมายหลากหลายให้เลือก นึกถึงเส้นทางธรรมชาติ วิวเทือกเขาแอลป์ นึกถึง ทราเวล สปรี ^ ^ 


จำนวนผู้เข้าชม 200 ครั้ง