แจกพิกัด 5 พระราชวังยอดนิยม ในกรุงโซล เกาหลีใต้

1.พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung 경복궁) ความยิ่งใหญ่จากยุคโชซอนถึงปัจจุบัน พระราชวังขนาดใหญ่ใจการกรุงโซล แลนด์มาร์กที่ไม่ว่าถามใครก็จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน หลายคนที่วางแผนไปเที่ยวเกาหลีก็มักเพิ่มพระราชวังเคียงบกเอาไว้ในจุดหมายปลายทาง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า นอกจากความสวยงามอันยิ่งใหญ่แล้ว พระราชวังแห่งนี้ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย

ประวัติพระราชวังเคียงบก

พระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung Palace) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1394 หรือก็คือในยุคสมัยของราชวงศ์โชซอนนั่นเอง โดยพระราชวังแห่งนี้ได้กลายมาเป็นที่ประทับหลักเพื่อการว่าราชการของกษัตริย์และเหล่าเชื้อพระวงศ์ของเกาหลี พร้อมมีการต่อเติมให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น แต่ก็มีบางส่วนที่ได้รับความเสียหายในสงครามเกาหลี-ญี่ปุ่นเช่นกัน ในปี ค.ศ. 1997 พระราชวังเคียงบกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การ UNESCO อีกด้วย

ที่ตั้งของพระราชวังเคียงบก

ที่ตั้งของพระราชวังเคียงบกนั้นสามารถเห็นได้อย่างง่ายดาย เพราะอยู่ใจกลางย่านประวัติศาสตร์ของกรุงโซล หรือก็คือย่านจงโน (Jongno-gu) นั่นเอง โดยรอบ ๆ พระราชวังเคียงบกยังมีจุดเช็กอินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี อนุสาวรีย์กษัตริย์เซจง หรือคลองชองกเยชอน เป็นต้น

(พิกัด : https://maps.app.goo.gl/S7PrNT4vJLPdqgq88)

เยี่ยมชมพระราชวังเคียงบกกุงช่วงไหนได้บ้าง

หากคุณต้องการเข้าชมภายในพระราชวังเคียงบก จะมีค่าเข้าแบ่งเป็นผู้ใหญ่ (อายุ19-64 ปี) อยู่ที่ 3,000 วอน และเยาวชน (อายุ7-18 ปี) อยู่ที่ 1,500 วอน ส่วนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่ใส่ชุดฮันบกสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนั่นเอง

พระราชวังเคียงบกเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. ทั้งนี้ เวลาการเปิดเข้าชมอาจแตกต่างไปตามแต่ละช่วงหรือวันเทศกาล ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวพระราชวังดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ https://royal.cha.go.kr/ ก่อนการเดินทางได้

เส้นทางเดินชมพระราชวังเคียงบก พร้อมจุดน่าสนใจต่าง ๆ

ภายในพระราชวังเคียงบกมีตำหนักมากถึง 10 ตำหนักด้วยกัน ดังนั้น เราจึงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อที่จะสามารถวางแผนการเดินชมที่เที่ยวแห่งนี้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด Traveloka จึงได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับจุดน่าแวะระหว่างเส้นทางเดินชมพระราชวังเคียงบกมาให้ทุกคนแล้ว ดังนี้

ประตูควังฮวามุน จุดแรกที่เราสามารถเห็นได้จากหน้าพระราชวังเคียงบกนั่นก็คือ “ประตูควังฮวามุน” ประตูนี้เป็นประตูหลักที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระราชวัง อีกทั้งประตูแห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่คือ เป็นป้อมปราการเพื่อการเฝ้าดูแลพระราชวังและตัวเมืองนั่นเอง

พระที่นั่งคึนจอง (Geunjeongjeon) อาคารหลักของพระราชวังเคียงบกมีชื่อเรียกว่า “พระที่นั่งคึนจอง” หรือ คึนจองจอน โดยอาคารนี้ใช้ในพิธีสำคัญต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก, พิธีเสด็จออกว่าราชการ หรือพิธีรับรองพระราชอาคันตุกะ เป็นต้น ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย

ศาลาคยองฮเวรูกวาน (Gyeonghoeru Pavilion) ศาลากลางน้ำที่ผู้คนมักเคยเห็นในรูปพระราชวังเคียงบกมีชื่อเรียกว่า “ศาลาคยองฮเวรูกวาน” โดยศาลาแห่งนี้ใช้จัดงานเลี้ยงอันยิ่งใหญ่ให้กับเหล่าขุนนาง หรือใช้รองรับพระราชอาคันตุกะ อีกทั้งยังมีการใช้เพื่อจัดสอบราชบัณฑิตอีกด้วย

จิบอกแจ (Jibokjae Hall) “หอสมุดจิบอกแจ” หรือ หอหนังสือ เป็นหอสมุดที่รวบรวมหนังสือ รวมถึงเอกสารรับรองต่าง ๆ ของราชวงศ์โชซอนเอาไว้มากมาย ถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมองค์ความรู้ตั้งแต่อดีตเอาไว้อย่างนับไม่ถ้วน

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยี่ยมชมพระราชวังเคียงบก

หากได้เดินทางมายังพระราชวังเคียงบกแล้ว มีกิจกรรมมากมายที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งรับรองว่าจะทำให้ทริปเที่ยวของคุณสนุกมากขึ้นหลายเท่าแน่นอน หากพร้อมแล้ว เราไปดูข้อมูลของกิจกรรมต่าง ๆ กัน!

แต่งชุดฮันบกเยี่ยมชมพระราชวัง

แน่นอนว่าหากเดินทางมายังพระราชวังเคียงบกที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน หลายคนคงอยากแต่งชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อที่จะสามารถเดินถ่ายรูปเช็กอินให้เข้ากับบรรยากาศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการแต่งชุดฮันบกนั้นยังสามารถเข้าชมพระราชวังได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ชมพิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบก

พิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบกถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด โดยพิธีนี้มีให้ชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ทั้งหมด 3 เวลาคือ 11.00, 14.00 และ 15.30 น. บริเวณหน้าประตูควังฮวามุน ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ!

เข้าชมพระราชวังเคียงบกในช่วงเวลากลางคืน

นอกจากการเข้าชมพระราชวังเคียงบกในเวลาทั่วไปแล้ว เรายังสามารถเข้าชมพระราชวังในช่วงเวลากลางคืนได้อีกด้วย โดยพระราชวังจะเปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่เวลา 19.00-21.30 น. และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากคุณต้องการเข้าชมพระราชวังเคียงบกในตอนกลางคืน สามารถติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ทางการของพระราชวังได้เลย

คัดลอกข้อมูลจาก traveloka.com

เกร็ดความรู้

การเดินทางไปพระราชวังเคียงบก มีวิธีใดบ้าง?

การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน : วิธีการเดินทางไปยังพระราชวังเคียงบกกุงที่ง่าย และได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เพราะรถไฟใต้ดินครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงโซล คุณสามารถเดินทางจากสถานีที่ใกล้กับคุณมากที่สุด โดยสถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้เคียงกับพระราชวังเคียงบกมี 2 สถานีด้วยกัน ดังนี้

ขึ้นรถไฟสาย 3 เพื่อลงที่สถานี Gyeongbokgung และไปยังทางออก 5 จากนั้นเดินอีกเล็กน้อยก็ถึงทางเข้าพระราชวัง
ขึ้นรถไฟสาย 5 เพื่อลงที่สถานี Gwanghwamun และไปยังทางออก 2 จากนั้นเดินอีกเล็กน้อยก็ถึงทางเข้าพระราชวัง แต่สถานีนี้จะอยู่ห่างกว่าสถานี Gyeongbokgung

เพื่อความสะดวกสบาย คุณสามารถเลือกใช้บัตรเติมเงิน T-Money, Cashbee หรือบัตรเติมเงินอื่น ๆ ตามความต้องการ เนื่องจากบัตรโดยสารเหล่านี้สามารถใช้ร่วมกับระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ ได้ แต่หากคุณต้องการใช้บัตรโดยสารเที่ยวเดียวก็สามารถซื้อได้ที่ตู้กดบัตรโดยสารตามสถานีรถไฟใต้ดินนั้น ๆ เช่นกัน

การเดินทางด้วยรถบัส: อีกหนึ่งวิธีเดินทางไปยังพระราชวังเคียงบกที่ได้รับความนิยมนั่นก็คือ รถบัสประจำทาง คุณสามารถเลือกขึ้นรถบัสประเภท Circular Bus สาย A01 ที่ให้บริการโดยรอบพระราชวัง หรือขึ้นรถบัสสายอื่น ๆ เช่น สาย 171, 272, 708 และ 7025 เพื่อมาลงที่ป้าย Gyeongbokgung ก็ได้เช่นกัน

แต่การเดินทางด้วยรถบัสจำเป็นที่จะต้องใช้บัตรเติมเงิน T-Money, Cashbee หรือบัตรเติมเงินอื่น ๆ เพื่อเดินทาง เนื่องจากรถบัสในประเทศเกาหลีใต้จะไม่รับเงินสดนั่นเอง

พระราชวังเคียงบกกุง

ประตูควังฮวามุน

พระที่นั่งคึนจอง

ศาลาคยองฮเวรูกวาน

แต่งชุดฮันบกเยี่ยมชมพระราชวัง

ชมพิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบก

เข้าชมพระราชวังเคียงบกในช่วงเวลากลางคืน

แต่งชุดฮันบกเยี่ยมชมพระราชวัง

ศาลาริมน้ำฮยางวอนจอง

2.พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung Palace)

พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung Palace) วังหลวงแห่งโชซ็อน 1 ในความสวยงามของพระราชวังทั้ง 5 ของเกาหลีและเป็นพระราชวังลำดับที่ 2 ของเกาหลี รองจากพระราชวังหลวงเคียงบ๊กกุง

เป็นพระราชวังที่มีความสำคัญ สร้างขึ้นในรัชสมัยกษัตริย์แทจง และเป็นที่พำนักของกษัตริย์หลายพระองค์ แห่งราชวงศ์โชซ็อน พระราชวังแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า พระราชวังตะวันออก หรือ ทงวอล เป็นพระราชวังที่มีสวนลับ หรือ สวนต้องห้าม อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ที่นี่มีเขตพระราชฐานชั้นนอก , พระราชฐานชั้นใน และ สวนต้องห้าม ที่มีต้นไม้อายุประมาณ 300 ปี ภายในมีสระน้ำ บรรยากาศร่มรื่น ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างงดงาม ในอดีตเป็นที่พักผ่อนพระอิริยาบถของกษัตริย์และพระราชวงศ์ และอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และเป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของราชวงศ์โชซ็อน หรือ เกาหลีโบราณ

พระที่นั่งซองจองจอน พระที่นั่งสำหรับว่าราชการของกษัตริย์และต้อนรับพระราชอาคันตุกะของพระมหากษัตริย์ เป็นพระที่นั่งชั้นเดียว มีบัลลังค์ฉากหลังเป็นรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ และภูเขาห้าลูก มีการวาดภาพ ตกแต่งด้วยโทรสีห้าสวยงาม มีเอกลักษณ์ด้วยศิลปะแห่งโชซ็อน

ที่นี่ยังมีการแสดงการสับเปลี่ยนเวรยาม โดยการแสดงของทหารและนักแสดงที่แต่งกายในชุดฮันบก และ ชุดทหารราชสำนักในรัชสมัยราชวงศ์โชซ็อน เดินออกมาจากพระราชวังสู่ประตูหน้า เป็นริ้วขบวนที่งดงาม มีเสียงเพลงเกาหลีโบราณบรรเลงเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ โดยเวลาในการแสดงจะมีประกาศที่ช่องประชาสัมพันธ์ ที่ซื้อตั๋วเข้าชม ของพระราชวัง โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี

พระราชวังชางด๊อกกุง นับได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมเกาหลีโบราณได้เป็นอย่างดี ด้วยการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์โชซ็อน การวางแผนระบบ แผนผัง ในเขตพระราชฐานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีพระตำหนัก อาคารที่ทางการเกาหลีได้บูรณะซ่อมแซมให้ชนรุ่งหลังได้ศึกษาหาความรู้ และนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงามของสถานที่แห่งนี้

คัดลอกข้อมูลจาก ผู้เขียน Tukky Natapong (travel.trueid.net)

3.พระราชวังถ๊อกซูกุง (Deoksugung Palace)

พระราชวังถ๊อกซูกุง (Deoksugung Palace) ก่อนที่พระราชวังแห่งนี้จะมีชื่อว่า พระราชวังถ็อกซูกุง (Deoksugung Palace) อย่างในปัจจุบัน แต่เดิมเป็นที่พำนักของ “เจ้าชายวลซานแดกุน (Wolsandaegun) พี่ชายของพระเจ้าซองจงแห่งราชวงศ์โชซอน (Seongjong of Joseon) ต่อมาในปี ค.ศ. 1611 พระราชวังหลักได้ถูกย้ายไปยังพระราชวังชางด็อก (Changdeokgung Palace) แทน และเปลี่ยนชื่อเป็น พระราชวังคยองอุน (Gyeongungung Palac) ต่อมาพระราชวังคยองอุน ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1904 หลังจากนั้นในปีเดียวกัน พระราชวังได้รับการบูรณะฟื้นฟูใหม่ โดยมีการก่อสร้างอาคาร สะพาน และศาลเจ้า เพื่อให้เป็นที่ประทับของพระเจ้าโคจง พร้อมกับปรับปรุงสถานที่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการรุกรานจากญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1907 พระราชวังได้ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "พระราชวังถ็อกซูกุง" ซึ่งมีความหมายว่า "พระราชวังแห่งคุณธรรมและอายุยืน" ซึ่งชื่อนี้ได้ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยพระราชวังถ็อกซูกุง เป็นพระราชวังที่เล็กที่สุดจากพระราชวังหลักทั้ง 5 แห่งของกรุงโซล

ลักษณะเด่นของพระราชวังถ็อกซูกุงคือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบเกาหลีดั้งเดิมและสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกในช่วงปลายสมัยโชซอน ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ อาคารภายในพระราชวังมีทั้งแบบเกาหลีดั้งเดิมและแบบตะวันตกโรมันนีโอคลาสสิก นอกจากนี้ ยังมีการจัดสวนแบบตะวันตกแห่งแรกของเกาหลีด้วย ทำให้พระราชวังถ็อกซูกุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเกาหลี ในการนำเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมผสานในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยใหม่

คัดลอกข้อมูลจาก traveloka.com

เกร็ดความรู้

1.จุดถ่ายรูปห้ามพลาด

ประตูแทฮัน (Daehanmun Gate) : ประตูหลักของพระราชวังในอดีต สร้างขึ้นใหม่หลังการขยายถนนในปี 1986 เพื่อเป็นทางเข้าหลักแทนประตูเก่า ปัจจุบันเป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของพระราชวัง

พระที่นั่งชุงฮวา (Junghwajeon Hall) : อาคารตั้งอยู่ด้านหลังของประตูทางเข้า ถูกบูรณะเพื่อใช้เป็นห้องโถงหลักของพระราชวังสำหรับงานพิธีสำคัญของรัฐ รวมถึงใช้ต้อนรับทูตจากต่างประเทศ

พระตำหนักฮัมยอง (Hamnyeongjeon Hall) : สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ประทับและสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์โคจง กษัตริย์องค์สำคัญในราชวงศ์โชซอน

พระที่นั่งชึกโจ (Jeukjodang Hall) : ห้องโถงสำหรับพระราชพิธีสำคัญ เช่น การขึ้นครองราชย์ของอดีตกษัตริย์หลายพระองค์ในราชวงศ์

พระที่นั่งชุนมยอง (Junmyeongdang Hall) : ห้องโถงสำหรับรับรองแขกผู้มีเกียรติและทูตต่างประเทศ และเคยเป็นโรงเรียนอนุบาลของเจ้าหญิงท็อกฮเย (Princess Deokhye)

พระตำหนักซอกออ (Seogeodang Hall) : อาคารหลังคาซ้อนสองชั้น ที่พักชั่วคราวของราชวงศ์ในช่วงสงครามกับญี่ปุ่น

พระที่นั่งถ็อกฮง (Deokhongjeon Hall) : อาคารสำหรับรองรับทูตต่างประเทศ มีองค์ประกอบของการเปลี่ยนแปลงสู่สมัยใหม่ โดยมีรูปทรงเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสและบนเพดาน มีการติดตั้งหลอดไฟ

ประตูควางมยอง (Gwangmyeongmun Gate) : ทางเข้าหลักของพระตำหนักฮัมยอง ถูกทำลายจากเหตุไฟไหม้ แต่สร้างขึ้นใหม่ในปีเดียวกัน

พระที่นั่งชองกวัน (Jeonggwanheon Hall) : สถานที่ในสวนสำหรับพักผ่อน ดื่มชา ฟังดนตรี เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมผสมผสานตะวันตก

พระตำหนักซอกโช (Seokjojeon Hall) : อาคารสไตล์ตะวันตกเพื่อรับรองทูตต่างประเทศ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ

ถนนกำแพงหินถ็อกซู (Deoksugung Stone Wall Road) : เส้นทางเดินเล่น เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามตามแนวกำแพงหินของพระราชวัง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะได้พบกับสีสันที่สวยงามของเหล่าต้นไม้

หอชมวิวชองดง (Jeongdong Observatory) : จุดชมวิวพระราชวังและบริเวณโดยรอบ เมื่อมองไปจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู

2. ควรไปเที่ยวช่วงไหนดี ?

พระราชวังถ็อกซูกุงสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูกาลมีบรรยากาศและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป

ฤดูใบไม้ผลิ : อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ดอกไม้นานาพันธุ์จะเบ่งบานสะพรั่ง สวนภายในพระราชวังจึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเดินเล่นชมธรรมชาติ

ฤดูใบไม้ร่วง : อากาศเย็นสบาย พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี

ฤดูหนาว : แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่บรรยากาศในวันที่มีหิมะตก ทำให้ภาพของพระราชวังดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

3. เวลาการแสดงผลัดเปลี่ยนเวรยามและเวลาเปิด-ปิด

การแสดงผลัดเปลี่ยนเวรยาม : พิธีผลัดเปลี่ยนเวรยามรักษาการณ์ประจำประตู จัดขึ้นทุกวันเวลา 11.00 น. 14.00 น. และ 15.00 น. อย่างไรก็ดี การแสดงอาจถูกยกเลิกในวันที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

เวลาเปิด-ปิด

พระราชวังเปิดทำการ 09.00 น. - 21.00 น. (รับนักท่องเที่ยวรอบสุดท้าย 20.00 น.)

ปิดทำการทุกวันจันทร์

วิธีเดินทางและค่าเข้าชมพระราชวังถ็อกซูกุง

รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี City Hall ทางออก 2

ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ คนละ 1,000 วอน อายุต่ำกว่า 18 ปีและมากกว่า 65 ปี หรือสวมชุดฮันบก เข้าชมฟรี

4. พระราชวังชังคยองกุง (Changgyeonggung Palace)

พระราชวังชังคยองกุง (Changgyeonggung Palace) หรือ พระราชวังชางเคียงกุง หรือ คนไทยอาจเรียก ‘ชังคยอง, ชังกย็อง, ชางคยอง’ จริงๆแล้วควรออกเสียงว่า “ชั่งคยองกุง (창경궁)” ตามหลักการอ่านออกเสียงภาษาเกาหลี เป็นพระราชวังที่มีการสร้างในสมัยราชวงศ์โชซอน เพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ โดยลำดับการสร้างพระราชวังแห่งนี้เป็นลำดับที่ 3 ต่อจาก พระราชวังคยองบก และพระราชวังชางดอก พระเจ้าเซจงมหาราช ได้บูรณะและให้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าเทจง พระราชบิดาในปี ค.ศ.1418 มีการขยับขยายบริเวณอาณาเขตของพระราชวังในช่วงปี ค.ศ.1483-1484 และเปลี่ยนชื่อพระราชวังมาเป็น “พระราชวังช่างคยองกุง” ในปีค.ศ.1592 ได้รับความเสียหายจากการยึดครองโดยญี่ปุ่น และมีการปรับฟื้นฟูส่วนพระราชวังอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ.1616

พระราชวังแห่งนี้ เป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมแตกต่างจากวังอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันออกและตะวันตก ขนาดภายในวังอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่มีความร่มรื่น และสวยงามของธรรมชาติ มีบ่อน้ำ มีสวนพฤกษศาสตร์ แดโอนชิล (Daeonsil – 대온실) เป็นเรือนกระจก เป็น “สวนเรือนกระจกเรือนแรกของเกาหลีที่มีลักษณะการออกแบบตะวันตก”

โดย Changgyeonggung Palace นั้นถือว่าเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังที่มีความสำคัญมากของเกาหลี โดยมันเป็นพระราชวังเก่าเเก่ ซึ่งเเต่เดิมนั้นมันเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์ในราชวงศ์โครยอ จึงทำให้มีบริเวณที่กว้างใหญ่เเละมีสวนอุทยานที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก โดยเคยมีการบูรณะพระราชวังเเห่งนี้มาเเล้วครั้งหนึ่งในสมัยของพระเจ้าซองจง โดยในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาปกครองเกาหลีนั้นได้มีการดัดเเปลงพื้นที่บางส่วนของพระราชวังเเห่งนี้เป็นสวนสาธารณะเเละมีทั้งสวนสัตว์เเละพิพิธภัณฑ์อยู่ภายในอีกด้วย เเต่ต่อมาทางการเกาหลีได้จัดการย้ายสวนสัตว์ออกไป ยังคงเหลือเเต่พิพิธภัณฑ์ไว้อยู่เท่านั้น

โดยจุดสถานที่เที่ยวเกาหลีที่มีความสำคัญภายใน พระราชวังชังกย็อง นั้นก็เริ่มตั้งเเต่ทางเข้าของพระราชวังก็คือประตูฮงฮวามุน ที่ถือว่าเป็นประตูหลักของพระราชวังเเห่งนี้ โดยมีความเชื่อว่าสร้างมาตั้งเเต่สมัยพระเจ้าซองจง เมื่อปี ค.ศ.1484 ก่อนจะถูกเผาเสียหายคราวการรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่นครั้งที่ 2 โดยได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ.1616 นับว่าเป็นประตูที่มีความเก่าเเก่เป็นอย่างมาก ส่วนอีกจุดที่มีความสวยงามเเละเป็นที่นิยมในการมาถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวก็คือสะพานหินโค้ง อกช็องกโย ซึ่งสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1483 โดยความยาวของสะพานอยู่ที่ 9.9 เมตร ส่วนพระตำหนักหลักที่สำคัญอย่างพระตำหนักกย็องชุนจ็อน สร้างขึ้นตั้งเเต่ปี ค.ศ.1483 เเต่ถูกทำลายด้วยภัยต่างๆ หลายต่อหลายครั้ง เเละได้รับการบูรณะล่าสุดเมื่อปี ค.ศ.1834

คัดลอกข้อมูลจาก japaikorea.com / korea108.com

เกร็ดความรู้

การเดินทาง

รถไฟฟ้า

สถานีอันกุก (Anguk) สาย 3 ประตูทางออก 3 เดินตรงไปเรื่อยๆประมาณ 300 เมตร

สถานีฮเยฮวา (Hyehwa) สาย 4 ประตูทางออก 4 เดินประมาณ 500 เมตร

วันเวลาทำการ

หยุดทุกวันจันทร์

เวลาทำการ :

เดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม, กันยายน – ตุลาคม 09:00-18:00

มิถุนายน – สิงหาคม 09:00-18:30

พฤศจิกายน – มกราคม 09:00-17:30

เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนปิด

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเดินทาง

หากวางแผนต้องการทัวร์พระราชวังใหญ่ของกรุงโซล ทีมงานจะไปเกาหลี ขอแนะนำให้เริ่มต้นชมจากพระราชวังนี้ก่อน แล้วสามารถต่อไปพระราชวังชางดอก (มีทางเชื่อมระหว่างพระราชวังชางคยองและชางดอก) และพระราชวังคยองบก ตามลำดับได้

มีบริการไกด์ภาษาต่างประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ในเวลาดังกล่าว

ภาษาอังกฤษ – 11:00, 16:00

ภาษาญี่ปุ่น – 10:00, 14:00

ภาษาจีน – 09:30, 15:00

ค่าเข้าชม

ชาวต่างชาติ

ผู้ใหญ่ (อายุ 19 ปีขึ้นไป) : 1,000 วอน, กลุ่มคณะ (มากกว่า 10 คนขึ้นไป) : 800 วอน

เด็ก (อายุ 7-19 ปี) : 500 วอน

เด็กทารก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) : ไม่มีค่าเข้าชม

* ตั๋วร่วม สามารถเข้าชมปราสาททั้ง 4 แห่ง ราคา 10,000 วอน สามารถเข้าชม พระราชวังชางดอกกุง (รวม Secret garden และ ฮูวอน), พระราชวังดอกซูกุง, พระราชวังคยองบกกุง และศาลเจ้าจงมโย

ตั๋วมีอายุการใช้งาน ภายใน 1 เดือน นับจากซื้อ และไม่สามารถคืนเงินได้หากมีการใช้งานแล้ว

5.พระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeonghuigung)

พระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeonghuigung Palace) คย็องฮีกุง หรือ พระราชวังคย็องฮี หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของราชวงศ์โชซ็อนและเกาหลี ปัจจุบันตั้งอยู่ที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงโซล พระราชวังเเห่งนี้เป็นที่ประทับของกษัตริย์เกาหลีในช่วงปลายราชวงศ์ถึง 10 รัชกาล ซึ่งในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น พระราชวังเเห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงเรียนมัธยมโดยกองทัพญี่ปุ่น ตำหนักที่ไม่ควรพลาดในการเข้าชมคือ ตำหนัก Sungjeongjeon เเละ Jajeongjeon ที่พระมหากษัตริย์ใช้สำหรับการออกว่าราชการเเละพบปะเหล่าขุนนาง พระราชวังแห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ผสมผสานกับกลิ่นอายแบบเกาหลีโบราณ ภายในพระราชวังมีสวน "กุงนึง (Kunjung Garden)" สวนเกาหลีแบบดั้งเดิมที่ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้และศาลาทรงเกาหลี

โดย Gyeonghuigung นั้นเป็นอีกพระราชวังที่มีความสำคัญ 1 ใน 5 ของเกาหลี ถูกสร้างขึ้นในช่วงของปลายราชวงศ์โซชอน โดยเป็นพระราชวังเเห่งที่ 2 ของกษัตริย์เกาหลีหลายๆ พระองค์ โดยมันตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงโซลจึงมีชื่อเรียกในภาษาเกาหลีอีกชื่อว่า ซอ-กว็อล หรือพระราขวังตะวันตกนั่นเอง โดยพระราชวังเเห่งนี้เป็นที่ประทับของกษัตริย์เกาหลีในช่วงปลายราชวงศ์ถึง 10 รัชกาลด้วยกัน ตั้งเเต่สมัยพระเจ้าอินโจถึงสมัยพระเจ้าชอลจง ส่วนในช่วงของการปกครองโดยญี่ปุ่นช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น พระราชวังเเห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงเรียนมัธยมโดยกองทัพญี่ปุ่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นพระราชวังดั่งเดิมหลังสงครามสิ้นสุดลง

ภายใน พระราชวังคย็องฮี นั้นประกอบไปด้วยอาคารตำหนักต่างๆ กว่า 100 อาคาร โดยพระตำหนักที่สำคัญที่คุณไม่ควรพลาดในการเข้าไปชมก็คือ ตำหนัก Sungjeongjeon เเละ Jajeongjeon ที่ใช้สำหรับการออกว่าราชการเเละพบปะเหล่าขุนนาง โดยเปิดให้เห็นด้านในอีกด้วย เเต่ไม่สามารถเดินเข้าไปชมได้ ส่วนตำหนัก Yungbokjeon เเละ Hoesangjeon นั้นจะเป็นตำหนักในที่พักส่วนพระองค์ของกษัตริย์เกาหลี ซึ่งมีความน่าสนใจเลยทีเดียว นอกจากนี้เเล้วที่นี่ยังมีสะพานหินโค้งขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปยังพระราชวัง Deoksugung ที่มีพื้นที่ติดต่อกันอีกด้วย

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมความงดงามของ Gyeonghuigung อาจจะสงสัยว่าทำไมประตูทางเข้าของพระราชวังจึงยังดูใหม่อยู่ เราก็มีคำตอบที่น่าสนใจว่า เมื่อช่วงหลังจากการเปลี่ยนกลับจากโรงเรียนมัธยมมาเป้นพระราชวังนั้นบานประตูของประตู Heunghwamun ถูกนำไปไว้ที่โรงเเรมชิลลาจนถึงทุกวันนี้ หากคุณได้มีโอกาสพักที่โรงเเรมชิลลาก็จะพบกับบานประตูใหญ่ทางเข้าโรงเเรมที่นำมาจากพระราชวังเเห่งนี้ ส่วนบานประตูของทางเข้า Sungjeongjeon นั้นปัจจุบันก็ไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยดองกุก โดยที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งเเต่เวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น.

คัดลอกข้อมูลจาก korea108.com

เกร็ดความรู้

การเดินทางมายัง พระราชวังคย็องฮี

รถไฟใต้ดินสายที่ 5 มาลงที่สถานี Seodaemun จากนั้นให้เลือกออกทางออกที่ 4 จากนั้นเดินตรงมาอีกประมาณ 150 เมตรตรงหัวมุมให้คุณเลี้ยวขวา ก็จะถึง พระราชวังคย็องฮี เเล้ว โดยบริเวณรอบๆ นั้นยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กรุงโซลเเละ Jeongdong Street ให้คุณได้เดินชมต่ออีกด้วย หรือใครจะข้ามถนนไป เที่ยวพระราชวังคย็องฮี Deoksugung

จองทัวร์เกาหลี ชมพระราชวังแสนสวย กับทราเวล สปรี นะ ^^

เห็นพระราชวังสวยๆของเกาหลีในโซลกันแล้ว เพื่อนๆอยากจะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเกาหลีใต้กันแล้วใช่มั้ยล่ะ ทราเวลสปรี เรามีโปรแกรมเที่ยวเกาหลี มากมายเลยนะ มาเลือกชมในเว็บไซต์ของเรากันก่อนได้เลยจ้า "อันยอง.."