เวลาทำการ

เปิดทุกวัน

ฉุกเฉินติดต่อได้ 24 ชม.

Book Now

@travelspree

Travel License : 11/06647

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ปักหมุด 12 ที่เที่ยวโรม อิตาลี เสน่ห์อารยธรรมตะวันตก

ปักหมุด 12 ที่เที่ยวโรม อิตาลี เสน่ห์อารยธรรมตะวันตก

08

Oct

อิตาลี

ปักหมุด 12 ที่เที่ยวโรม อิตาลี เสน่ห์อารยธรรมตะวันตก

กรุงโรม ที่เที่ยวอิตาลี เมืองที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง เพราะนอกจากจะเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน อิตาลี แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่กว่า 2,700 ปี ตั้งแต่สมัย อาณาจักรโรมัน ซึ่งเป็นรากฐานของอารยธรรมตะวันตกในหลายๆ แง่มุมอีกด้วย จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามเราไปเช็คอิน 12 ที่เที่ยวโรม อิตาลี ด้วยกันเลย

1. โคลอสเซียม The Colosseum

โคลอสเซียม (Colosseum)  เริ่มต้นทัวร์กรุงโรม ทัวร์อิตาลี กับสิ่งก่อสร้างสุดอลังการที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันในอดีต สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 72 โดยจักรพรรดิเวสปาเซียน (Vespasian AD 69-79) โดยใช้เวลาทั้งหมด 8 ปีถึงจะสร้างจนแล้วเสร็จ กลายเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่มหึมาที่สามารถจุได้ถึง 50,000 คน น่าเศร้าที่ในสมัยก่อนนั้นใช้เพื่อเป็นสถานที่ประลองของเหล่า กลาดิเอเตอร์ รวมถึงการปะลองกับสัตว์ดุร้าย และการประลองของนักโทษที่ต่อสู้เพื่อแลกกับอิสระภาพและเกียรติยศ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโคลอสเซียมเองก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งของอาณาจักรโรมัน และไม่น่าเชื่อว่าจะมีการก่อสร้างสนามกีฬาที่ใหญ่ขนาดนี้เมื่อพันกว่าปีก่อนได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโคลอสเซียมจึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เกร็ดความรู้

2. จัตุรัสโรมัน Roman Forum

จัตุรัสโรมัน (Roman Forum) ศูนย์รวมความรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเมือง และศาสนาในยุครุ่งเรืองของอาณาจักรโรมัน เป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้แก่ โบสท์แซทเทิร์น (Temple of Saturn), บ้านแห่งเวสทอล (House of the Vestals), เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสติ (Temple of Antoninus & Faustina), ซุ้มประตูแห่งติตุส (The Arch of Titus) ตั้งอยู่ระหว่างเนิน เนินพาเลติเน (Palatine hill) และ เนินแคปิโตลิเน (Capitoline hill) ที่สำคัญยังมี ซุ้มประตูหินอ่อนแห่งเซปติมุส เซเวรุส (Arch of Septimius Severus) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 203 เพื่อแสดงถึงชัยชนะจากการรบของจักรพรรดิที่มีต่อชาวปาร์เธียนด้วย

เกร็ดความรู้

3. น้ำพุเทรวี Trevi Fountain

น้ำพุเทรวี Trevi Fountain น้ำพุชื่อดังของกรุงโรม จะเป็นที่อื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) น้ำพุศิลปะบาโรกสุดอลังการที่มีความสูงถึง 30 เมตร บริเวณด้านหลัง พระราชวัง Palazzo Poli เดิมน้ำพุแห่งนี้ออกแบบโดย จีอัน โลเรนโซ เบอร์นีนี (Gian Lorenzo Bernini) ประติมากรและสถาปนิกชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดท่านหนึ่งในยุคบาโรก แต่เนื่องจากดีไซน์นี้จำเป็นต้องใช้ทุนสร้างอย่างมหาศาล จึงได้มีการออกแบบขึ้นใหม่โดย นิโคลา ซัลวี (Nicola Salvi) สถาปนิกชาวอิตาเลียนอีกท่านหนึ่ง ก่อนจะเริ่มการก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1732 ถึง 1762 นอกจากความงดงามอันน่าทึ่งแล้ว ยังมีความเชื่อด้วยว่าหากโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายลงไปยังใต้น้ำพุจะสามารถกลับมายังกรุงโรมได้อีกครั้ง

เกร็ดความรู้

4. วิหารแพนธีออน Pantheon

วิหารแพนธีออน (Pantheon) เทวสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงโรมที่เริ่มสร้างขึ้นในช่วง 27-25 ปีก่อนคริสต์ศักราชก่อนจะมีการสร้างขึ้นใหม่ในยุค จักรพรรดิฮาเดรียน เมื่อปี ค.ศ. 126 เพื่อเป็นเทวสถานบูชาเทพเจ้าแห่งกรีก-โรมันทั้ง 7 แห่งดาวในระบบสุริยะ ได้แก่ พระอาทิตย์ (Apollo) พระจันทร์ (Diana) อังคาร (Mars)  พุธ (Mercury) พฤหัส (Jupiter) ศุกร์ (Venus)และเสาร์ (Saturn) นับเป็นเรื่องแปลกใหม่ในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากวิหารกรีก-โรมันส่วนใหญ่มักจะสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น แต่วิหารแพนธีออนกลับสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าทุกพระองค์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ แพนธีออน (Pantheon Πάνθεον) ในภาษากรีก แปลว่า “เกียรติศักดิ์แห่งทวยเทพ” นั่นเองค่ะ แต่ผ่านไปประมาณ 500 ปี วิหารแพนธีออนก็ได้เปลี่ยนให้กลายเป็นโบสถ์คริสต์เมื่อปี ค.ศ. 609 

ไฮไลท์ของวิหารแพนธีออนที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ช่องวงกลม (Oculus) หรือที่เรียกว่า “ช่องตา” ซึ่งเป็นช่องแสงบริเวณกลางโดม มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 43.30 เมตร เชื่อกันว่าเป็นดวงตาสวรรค์ที่เอาไว้เชื่อมโยงระหว่างเทพเจ้าและมนุษย์ แต่ถ้าอิงตามทฏษฎีวิทยาศาสตร์ก็สันนิษฐานว่า Oculus อาจมีหน้าที่เป็นนาฬิกาจากแสงอาทิตย์ เพื่อให้แสงอาทิตย์อาบส่องลงมาที่ตังกษัตริย์เวลาประกอบพิธีต่างๆ ก็เป็นได้ อีกทั้งยังมีวัสดุที่ค่อนข้างเบา แต่มีความคงทนแข็งแรงมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นการก่อสร้างชิ้นเอกของยุคนั้นเลยทีเดียว

เกร็ดความรู้

5. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ St. Peter's Basilica

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ St. Peter's Basilica เดินทางมาเที่ยวใน นครรัฐวาติกัน (Vatican City) กันบ้าง ก่อนอื่นเลย เราขอพาไปชมความวิจิตรตระการตาของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) กันก่อนค่ะ โบสถ์หลังเดิมสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 4 และหลังที่เห็นในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1506 – 1626 รวมทั้งหมดก็ประมาณ 120 ปีเลยทีเดียวค่ะ เป็นการรวมผลงานของสุดยอดศิลปิน ประติมากร และสถาปนิกยุคยุคเรอเนสซองส์และบาโรก อย่าง ไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) โดนาโต บรามันเต (Donato Bramante) ราฟาเอล (Raphel) และ จีอัน โลเรนโซ เบอร์นีนี (Gian Lorenzo Bernini) ทำให้สถาปัตยกรรมภายในมหาวิหารนั้นมีการผสมผสานของศิลปะยุคเรอเนสซองส์และบาโรกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่สำคัญคือเข้าชมฟรีด้วยนะ ถ้าพลาดไปคงน่าเสียดายแย่เลย

เกร็ดความรู้

6. โบสถ์น้อยซิสทีน Sistine Chapel

Sistine Chapel โบสถ์น้อยซิสทีน  ชมจิตรกรรมฝาผนังและเพดานโบสถ์สุดวิจิตรงดงามภายใน โบสถ์น้อยซิสติน (Sistine Chapel) สถานที่คัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เป็นผลงานที่วาดขึ้นโดย ไมเคิลแองเจโล ที่บอกเล่าเรื่องราวของการสร้างโลก รวมไปถึง การพิพากษาครั้งสุดท้าย (The Last Judgement) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเขา ถ้ามาถึงนครวาติกันแล้วไม่ได้เข้ามาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์น้อยซิสทีนถือว่าพลาดจริงๆ ค่ะ 

เกร็ดความรู้

7. ปราสาทซันตันเจโล Castel Sant’Angelo

Castel Sant’Angelo ปราสาทซันตันเจโล  ปราสาทซันตันเจโล (Castel Sant'Angelo) ตั้งอยู่ริม แม่น้ำไทเบอร์ (River Tiber) โดยมีสะพานเชื่อมระหว่างปราสาทกับวิหารเซนต์ปีเตอร์ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 โดยจักรพรรดิเฮเดรียน เดิมเป็นป้อมปราการ และสุสานของกษัตริย์ในยุคโบราณ แต่ปัจจุบันก็ได้มีการปรับปรุงให้กลายเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราสาทซันตันเจโล (Museo Nazionale di Castel Sant'Angelo) ที่จัดแสดงโบราณวัตถุเก่าแก่ของกรุงโรม ไม่ว่าจะเป็น ชุดเกราะโบราณ เหรียญ เครื่องปั้นดินเผา เฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน

เกร็ดความรู้

8. จัตุรัสนาโวนา Piazza Navona

Piazza Navona จัตุรัสนาโวนา  เปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนที่ จัตุรัสนาโวนา (Piazza Navona) จัตุรัสชื่อดังของกรุงโรมที่สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยศตวรรณที่ 8 ก่อนจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อศตวรรษที่ 17 โดยเบอร์นินี ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 10 ทำให้จัตุรัสแห่งนี้มีความสวยงาม ตกแต่งด้วยงานประติมากรรม และเสาโอเบลิกส์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำพุ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร แถมยังมีผู้คนมาทำการแสดงเปิดหมวก สร้างสีสันให้กับจัตุรัสแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

เกร็ดความรู้

9. ย่าน Trastevere

ย่าน Trastevere เป็นย่านเก่าเต็มไปด้วยอาคารสมัยยุคกลางสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ทางทิศใต้จากนครรัฐวาติกัน ริมแม่น้ำไทเบอร์ มีร้านอาหารมากมายให้เลือกสรร บรรยากาศสุดวินเทจคล้ายได้ย้อนเวลากลับไปยังกรุงโรมในอดีต ยิ่งถ้าได้มานั่งทานอาหารชิลๆ ในยามค่ำคืนคงเป็นอะไรที่โรแมนติกน่าดู

เกร็ดความรู้

10. มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร Basilica Papale di Santa Maria Maggiore

มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร (Basilica Papale di Santa Maria Maggiore) หนึ่งในสี่มหาวิหารเอกของโรมันแคทอลิก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 432 ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมสไตล์โรมันและบาโรกเข้าด้วยกัน โดยมีหอระฆังสูง 75 เมตร ซึ่งเป็นหอระฆังที่สูงที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 14 ส่วนสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหารนั้นตกแต่งด้วยกระเบื้องสีโมเสก เสาหินอ่อน และลวดลายสีทอง มีความวิจิตรตระการตามากๆ นับเป็นมหาวิหารที่สำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรมเลยทีเดียว

เกร็ดความรู้

11. บันไดสเปน Spanish Steps หรือ Piazza di Spagna

บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดที่เชื่อมต่อระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1723-1726 มีทั้งหมด 138 ขั้น ทำให้ที่นี่เป็นบันไดที่มีความยาวและกว้างมากที่สุดในยุโรป ส่วนชื่อ "บันไดสเปน" นั้นมาจากการที่บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศสเปนค่ะ บรรยากาศรอบๆ อบอวลไปด้วยความครึกครื้น เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟน่านั่งมากมาย นับเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งที่ไม่ควรพลาด

เกร็ดความรู้

12. หอศิลป์ Palazzo Doria Pamphilj

หอศิลป์ Palazzo Doria Pamphilj  สายอาร์ตต้องมาทางนี้ The Doria Pamphilj Gallery หอศิลป์สุดอลังการที่เดิทเป็นพระราชวังในกรุงโรมช่วงศตวรรษที่ 16 จัดแสดงผลงานจิตรกรรมต่างๆ ของศิลปินชื่อดังในยุคเรอเนสซองส์ และบาโรก เช่น Titian, Raphael, Caravaggio, Correggio and Vélazquez ที่ ตระกูลดอเรีย (Doria Family) ตระกูลเศรษฐีชั้นสูงในยุคนั้นได้เก็บสะสมเอาไว้ ใครที่ชอบงานศิลปะในยุคนี้ล่ะก็ ต้องไม่พลาด

เกร็ดความรู้

คนไทยไปอิตาลี ต้องขอวีซ่า หากเอกสารครบ วีซ่าไม่ยากอย่างที่คิด เรามีโปรแกรมทัวร์อิตาลีหลากหลายแบบ และทัวร์ยุโรปอื่นๆอีกมากมาย ท่านไหนสนใจ ติดต่อสอบถาม ทราเวล สปรี ได้ที่
Line ID:   @travelspree  
HotLine  086-313-1989




จำนวนผู้เข้าชม 28 ครั้ง